ความงาม
หน้าแห้งลอกเป็นขุย แก้ยังไงดี Skin Booster ตัวไหนช่วยได้บ้าง
27
พ.ค.
พ.ค.
หน้าแห้งลอกเป็นขุย เป็นปัญหาผิวที่กวนใจใครหลายคน ไม่ใช่แค่ทำให้ผิวดูโทรม ไม่สดใส หรือมีริ้วรอยก่อนวัย แต่ยังทำให้แต่งหน้าไม่ติด เครื่องสำอางตกร่อง ผิวดูไม่เรียบเนียน เพราะสาเหตุหลักคือผิวขาดความชุ่มชื้น หรือไม่มีการดูแลที่ดีพอ หลายคนมักหันมาฉีด Skin Booster ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ผิวกลับมาชุ่มชื้น ฟื้นฟูโครงสร้างผิว และมีสุขภาพดีขึ้น
ใบบทความนี้เราจะไปหาคำตอบกันว่า Skin Booster แต่ละตัวของเมกะคลินิกมีอะไรบ้าง มีการทำงานอย่างไร เหมาะกับปัญหาแบบไหน และมีราคาระดับใดบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเราไปดูกันเลยครับ
Skin Booster คืออะไร แก้ปัญหาหน้าแห้งลอกเป็นขุยได้จริงไหม
Skin Booster คือหัตถการที่ช่วยฟื้นฟูผิวด้วยการฉีดตัวยาบำรุงสู่ชั้นผิว เพื่อซ่อมแซมโครงสร้างผิว เติมความชุ่มชื้น ปรับสมดุลภายในผิว ช่วยให้ผิวกลับมาแข็งแรง เนียนนุ่ม และดูสุขภาพดีขึ้น เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าผิว ขาดน้ำ แต่งหน้าไม่ติด หรือหน้าแห้งลอกเป็นขุยบ่อยๆ เรามาทำความรู้จักกับ Skin Booster ทั้ง 4 ตัวของเมกะคลินิกว่ามีอะไรกันบ้างครับ
ฉีดหน้าใส ปรับสมดุลผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว แต่งหน้าติดทน
หน้าใส เป็น Skin Booster ตัวนิยมที่หลายคนเลือกฉีดเพราะราคาเข้าถึงง่าย เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเริ่มต้นดูแลผิวแบบจริงจัง ตัวยาหน้าใสถูกพัฒนามาจากมาเด้คอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน เสริมความแข็งแรงให้เซลล์ผิว พร้อมช่วยปรับสมดุลน้ำและน้ำมันใต้ผิว ซึ่งเป็นจุดสำคัญของคนที่มีปัญหาผิวแห้ง หรือลอกเป็นขุย จุดเด่นอีกอย่างคือ ตัวยาถูกปรับสูตรให้แสบผิวน้อยกว่ามาเด้คอลลาเจน ทำให้ฉีดแล้วรู้สึกสบายผิวมากขึ้น ใครที่ไม่เคยฉีดมาก่อนก็หมดกังวลได้เลยครับ
หน้าใส เหมาะกับใคร
- คนที่หน้าแห้งเป็นขุย แต่งหน้าไม่ค่อยติด
- คนที่มีปัญหาผิวไม่แข็งแรง หน้ามัน รูขุมขนกว้าง ผิวแพ้ง่าย
- คนที่มีผิวหน้าสุขภาพดีอยู่แล้ว และต้องการคงสภาพผิวให้ดูดีแบบนี้ไปได้นานๆ
หน้าใส เห็นผลเมื่อไหร่
ปกติแล้วหมอจะฉีด หน้าใส 2 เข็ม กระจายทั่วหน้าเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพดีที่สุด โดยจะออกฤทธิ์เต็มที่ 1 – 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพโครงสร้างผิวเดิมและรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละคนครับ
หน้าใส ราคาเท่าไหร่
- 2 เข็ม 1,900.-
- 6 เข็ม 3,999.-
SkinBooster ชุ่มชื้นไปจนถึงเซลล์ พร้อมทำความผิวแบบล้ำลึก ผิวหน้าสะอาดสุขภาพดี
ตัวต่อมาที่คนนิยมไม่แพ้กันคือ SkinBooster มีตัวยาหลักคือ L’ebss (เลอเบส) ซึ่งอุดมไปด้วยสารบำรุงสำคัญ ได้แก่ Hyaluronic Acid (HA Skin Booster) ช่วยเติมน้ำลึกถึงระดับเซลล์ผิว Pink Yeast ยีสต์สีชมพูพรีเมียมที่ช่วยทำความสะอาดผิวอย่างล้ำลึก และ เปปไทด์รวม 14 ชนิด ซึ่งเป็นอาหารผิวจากโปรตีนและกรดอะมิโน ช่วยฟื้นฟูและเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ฉ่ำวาว ดูสุขภาพดี
SkinBooster เหมาะกับใคร
- ผิวแห้งเป็นขุย ขาดความชุ่มชื้น ส่งผลให้แต่งหน้าไม่ติด
- สีผิวไม่สม่ำเสมอ หมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
- มีจุดด่างดำ และรอยแผลเป็นจากสิว
- ผิวอ่อนแอแพ้ง่าย และต้องการฟื้นฟูความแข็งแรงของผิว
- ไม่มีเวลาดูแลผิว พักผ่อนน้อย นอนดึกเป็นประจำ
SkinBooster เห็นผลเมื่อไหร่
ส่วนประกอบทั้ง 3 อย่างจะทำงานเต็มที่ในระหว่าง 7 – 14 วัน จะรู้สึกว่าผิวหน้าเนียนขึ้น ผิวดูฉ่ำวาวจากความชุ่มชื้น ความมันบนผิวหน้าน้อยลง เพราะโครงสร้างผิวกำลังถูกฟื้นฟูขึ้น
SkinBooster ราคาเท่าไหร่
- 1 ขวด 5,990.-
- 3 ขวด ลด 3,000.-
Skinvive ผิวอิ่มน้ำ เปล่งประกายอย่างเป็นธรรมชาติ ฉ่ำวาวแบบยาวนาน
หลายคนคงยังไม่ทราบว่าฟิลเลอร์นอกจากช่วยปรับรูปหน้าได้ ยังสามารถประยุกต์มาใช้ในด้านงานผิวที่เป็น Skin Booster ได้เช่นกัน Skinvive (สกินวิฟฟ์) ผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ Juvederm แบรนด์ฟิลเลอร์ที่เราคุ้นเคยกันดี โดย Skinvive ปรับสูตรมาจาก ฟิลเลอร์ รุ่น Volite ในการช่วยเสริมให้ผิวมีความชุ่มชื้น และช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้อย่างยาวนาน
Skinvive ประกอบไปด้วย Hyaluronic Acid (HA) แบบไมโครดรอปเล็ตเหมาะสำหรับแทรกตัวไปอยู่ในชั้นผิวได้ดียิ่งขึ้นเพราะมีโมเลกุลขนาดเล็กมาก ทำงานไปพร้อมกับ AQP3 (อควาพอริน 3) ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำเก็บความชุ่มชื้นให้นานขึ้น
- คนที่ผิวแห้งกร้าน
- คนที่แต่งหน้าไม่ติด
- คนที่หน้ามัน รูขุมขนกว้าง
- คนที่ต้องการฟื้นฟูผิว
- คนที่ผิวไม่เรียบเนียน
หลังฉีด Skinvive สามารถสังเกตได้ว่าผิวจะเรียบเนียนในช่วง 2 สัปดาห์ แล้วรูขุมขนจะกระชับ แต่งหน้าติดผิวดีขึ้น เมคอัพแตกน้อยลง ใครที่มีโครงสร้างผิว หรือสุขภาพผิวดีอยู่แล้ว Skinvive ก็จะสามารถอยู่ได้นานถึง 9 เดือนเลยครับ
Skinvive ราคาเท่าไหร่
- 2 cc 23,800.- (cc ละ 11,900.-)
- 4 cc 45,000.- (cc ละ 11,250.-)
Belotero Revive ล็อกความชุ่มชื้น อิ่มน้ำคูณสอง ผิวฉ่ำแบบ Glass Skin
Belotero Revive เป็นฟิลเลอร์ตัวแรกที่ผสาน Hyaluronic Acid (HA) และ Glycerol (กลีเซอรอล) เข้าด้วยกัน ช่วยเพิ่มและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย HA ช่วยกระตุ้นให้ผิวสร้างความชุ่มชื้นจากภายใน ส่วน Glycerol ทำหน้าที่ล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิวได้นานขึ้น
เนื้อฟิลเลอร์ยังมีความละเอียด กลืนเข้ากับผิวได้ดี ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น อิ่มน้ำได้ลึกถึงผิวชั้นใน และคงความฉ่ำวาวไว้ได้ยาวนาน
- ผิวแห้งขาดน้ำ
- แต่งหน้าไม่ติด
- รูขุมขนกว้าง
- ผิวไม่เรียบเนียน
หลังฉีด Belotero Revive จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้น และเมื่อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 จะรู้สึกว่ารูขุมขนกระชับ ผิวดูฉ่ำวาวขึ้นอย่างชัดเจน และเครื่องสำอางติดง่ายและทนขึ้น
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเป็นประจำ แนะนำให้ฉีดเดือนละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 3 เดือน เพื่อฟื้นฟูผิวอย่างเต็มที่ แต่หากใครที่มีพื้นฐานผิวดีอยู่แล้ว สามารถเว้นระยะได้ประมาณ 6 เดือน โดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินสภาพผิวและให้คำแนะนำว่า ควรฉีดบ่อยแค่ไหนจึงจะเหมาะสมที่สุด
Belotero Revive ราคาเท่าไหร่
- 2 cc 23,800.- (cc ละ 11,900.-)
- 4 cc 45,000.- (cc ละ 11,250.-)
หากสนใจโปรโมชั่น แคปสอบถามใน LINE เพื่อรับสิทธิ์ คลิกเลย!
สรุปแก้ปัญหาหน้าแห้งลอกด้วย Skin Booster ตัวไหนดี
- ฉีดหน้าใส พัฒนาจากมาเด้คอลลาเจน ช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิว เสริมความแข็งแรงของเซลล์ผิว และปรับสมดุลน้ำกับน้ำมันใต้ผิว เหมาะสำหรับการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวแห้งลอก พร้อมลดโอกาสระคายเคือง โดยตัวยาถูกปรับให้แสบผิวน้อยลง
- SkinBooster ประกอบด้วย HA ที่ช่วยเติมน้ำลึกถึงระดับเซลล์ Pink Yeast ที่ช่วยทำความสะอาดผิว และมีเปปไทด์รวม 14 ชนิดที่ช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขึ้น สูตรนี้เน้นการบำรุงแบบองค์รวม ช่วยให้ผิวดูฉ่ำวาว สุขภาพดีจากภายใน พร้อมลดความมันและความหมองคล้ำ
- Skinvive มี HA แบบไมโครดรอปเล็ตที่ซึมลึกได้ดี และ AQP3 (อควาพอริน 3) ซึ่งช่วยกักเก็บน้ำในผิวได้ยาวนาน ช่วยให้ผิวดูอิ่มฟู เรียบเนียน และฉ่ำวาวอย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือตัวยาสามารถให้ผลลัพธ์ได้นานถึง 9 เดือน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบยาวๆ
- Belotero Revive ฟิลเลอร์งานผิวที่มีทั้ง HA และ Glycerol โดย HA ช่วยเติมน้ำจากภายใน ส่วน Glycerol ทำหน้าที่ล็อกความชุ่มชื้นให้อยู่ในผิวนานขึ้น เนื้อฟิลเลอร์ละเอียด กลืนเข้ากับผิวได้ดี ให้ผิวดูชุ่มชื้น อิ่มน้ำ และฉ่ำวาวตั้งแต่ชั้นในถึงชั้นนอก
Skin Booster ทั้ง 4 ตัวนี้สามารถช่วยแก้ปัญหา หน้าแห้งลอก ได้เหมือนกันครับ แต่ละตัวก็จะมีคุณสมบัติและจุดเด่นที่ต่างกันออกไป ใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะฉีดตัวไหนดี หรืออยากได้คำแนะนำเพิ่มเติม สามารถเข้ามาปรึกษาหมอที่ MEGA CLINIC ได้ฟรีครับ ทั้ง 5 สาขา เราพร้อมดูแลและแนะนำให้ตรงกับสภาพผิวของแต่ละคนครับ
- เมกะคลินิก คลินิกความงาม สยามสแควร์
- เมกะคลินิก คลินิกความงาม นนทบุรี
- เมกะคลินิก คลินิกความงาม ลาดพร้าว
- เมกะคลินิก คลินิกความงาม รังสิต ปทุมธานี
- เมกะคลินิก คลินิกความงาม ปากน้ำ ศรีนครินทร์
หรือสามารถจองคิวเข้ามาปรึกษาหมอ หรือจองคิวฉีดก่อนได้ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ LINE Official: @megaclinic (มี @) หรือกดแอดไลน์ที่ปุ่มสีเขียวด้านล่างนี้ได้เลยครับ
